บ้าน 2 ชั้นสไตล์ Tropical Tropical หมายถึงเขตร้อนชื้นดังนั้น การตกแต่งสไตล์นี้จึงเน้นการตกแต่ง ด้วยวัสดุธรรมชาติด้วยการประยุกต์วิธีการตกแต่ง ให้เข้ากับประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้น ด้วยรูปแบบที่ให้ความรู้สึกของการพักร้อนไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โทนสี หรือ การใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ Tropical Style จึงได้รับความนิยมถูกนำมาใช้ในการออกแบบตกแต่งบ้านพักตากอากาศ หรือ ตกแต่งรีสอร์ท เป็นอย่างมาก
เขตร้อน การแต่งบ้านสไตล์นี้จึงเป็นการตกแต่งให้เข้ากับภูมิอากาศร้อนชื้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีแสงแดดจัดสลับกับฝน Tropical Style มีแนวทางและรูปแบบการตกแต่งที่เรียบง่าย ทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง มีลม และแสงสว่างที่พอเหมาะ
บ้าน 2 ชั้นสไตล์ Tropical
แบบบ้านเขตร้อน 2 ชั้นหลังคาองศาแตกต่างรับมือแดดและฝน
![บ้าน 2 ชั้นสไตล์ Tropical](https://landphuket.live/wp-content/uploads/2023/08/9.jpg)
บ้านสไตล์ทรอปิคอล พื้นที่ชีวิตที่น่าอยู่ในทุกฤดู จากจุดเริ่มต้นของมนุษยชาติ บ้าน คือ สถาปัตยกรรมที่ทำหน้าที่ปกป้องผู้คนจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ไม่ว่าจะแดด ลมหรือฝน ในช่วงเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมได้มีการวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นพื้นที่ชีวิตที่ใส่การสื่อสาร ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติลงไปด้วย
เพื่อให้บ้านไม่เพียงคุ้มแดดคุ้มฝน แต่ยังตอบสนองกับสภาพอากาศที่เหมาะกับลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน บ้านในเมืองโฮจิมินห์ก็เช่นเดียวกัน
ด้วยที่ตั้งของเมืองเป็นที่ราบลุ่ม มีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนที่มีสองฤดูหลัก ๆ คือ ฝนและแสงแดด ทำให้สถาปัตยกรรมในเมืองค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองสภาพภูมิอากาศเขตร้อน และวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมีเอกลักษณ์ บ้านจัดสรร
บ้านเขตร้อนชื้น ตอบรับอากาศร้อน และฝนอย่างมีเอกลักษณ์ บ้านที่โดดเด่นด้วยรูปทรงหลังคาขนาดใหญ่ลาดเอียงลงมา ตั้งอยู่ในฟุ๊กเกี๋ยน ย่านชานเมืองของนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ออกแบบโดย k59 Atelier ที่ตั้งใจให้บ้านนี้ตอบโจทย์สภาพอากาศ และการใช้ชีวิตสำหรับสมาชิกต่างวัย 3 เจเนอเรชั่น
ด้วยที่ตั้งที่อยู่ในเขตลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ทางตอนใต้ของเวียดนาม ทำให้สภาพอากาศมี 2 ฤดูหลัก ๆ คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน จึงต้องออกแบบบ้านให้คุ้มแดดคุ้มฝน หลังคาระบายน้ำฝนได้ดีและมีช่องเปิดขนาดใหญ่สำหรับระบายอากาศร้อน ลดชื้นภายในบ้าน
![บ้าน 2 ชั้นสไตล์ Tropical](https://landphuket.live/wp-content/uploads/2023/08/99.jpg)
วัสดุหลัก ๆ ที่ใช้เป็นโครงสร้างตัวบ้าน และตกแต่ง เป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น อาทิ กระเบื้องดินเผาฝีมือช่างพื้นถิ่น อิฐแดง บล็อกช่องลม งานไม้ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของความเป็นเวียดนามดั้งเดิม ที่ทำให้บ้านยังคงมีกลิ่นอายความทรงจำที่คนทุกรุ่นคุ้นเคย แม้การดีไซน์จะใส่ฟังก์ชันที่ทันสมัยสอดแทรก เข้าไปคนรุ่นเก่าก็ไม่รู้สึกแปลกแยก สำหรับการออกแบบบ้านนั้นวางคอนเซ็ป ให้ครอบคลุมทุกองค์ประกอบ เพื่อให้ทิศทางของบ้านตอบสนองได้ครบทุกโจทย์
บ้านที่ไม่หวั่นกับสายฝน เพราะฤดูฝนเป็นหนึ่งในสอง ฤดูหลักที่บ้านต้องเผชิญ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน กว่า 7 เดือนต่อ 1 ปี จึงต้องมีระบบการจัดการน้ำฝนที่ดี ไม่ให้บ้านเสียหายจากความชื้น ทีมงานจึงออกแบบหลังคาที่มีความลาดชันสูง เพื่อระบายน้ำบนหลังคา ความลึกเป็นลอนของกระเบื้องดินเผา ทำให้น้ำไหลลู่ลงได้เร็ว
หลังคาจึงไม่เก็บความชื้น กระเบื้องดินเผาเป็นวัสดุที่นำพาความร้อนต่ำ จึงป้องกันความร้อนจากแสงแดด ไม่ให้ส่งผ่านลงไปภายในบ้าน ทีมงานซ่อนรางน้ำอยู่ในคานคอนกรีต สามารถรองรับน้ำฝนที่ไหลลง มาใช้สำหรับรดน้ำในสวนได้อีก ในส่วนปลายของชายคาที่ยื่นเลยรางน้ำฝนออกมา ทำให้ฝนไหลลงมาเป็นม่านน้ำดูสวยงามแปลกตาราวกับงานศิลปะ
ด้วยแปลนบ้านที่หันไป ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งองศาที่ค่อนข้างเฉียง ทำให้ได้รับแสงอาทิตย์ขนาบด้านข้าง สถาปนิกจึงแบ่งพื้นที่ภายในบ้านออกเป็นสองฝั่ง คือทิศตะวันตก ที่รับแสงค่อนข้างมากเป็น Action Area ที่มีกิจกรรมเคลื่อนไหว ตั้งแต่ทางเดินหน้าบ้าน โซนนั่งเล่น ห้องครัว และช่องเปิดขนาดใหญ่ เพื่อให้บ้านโปร่งสว่าง
![ภายในออกแบบสวยงาม](https://landphuket.live/wp-content/uploads/2023/08/Tile-Roof-House-K59atelier-11-620x413-1.jpg)
ส่วนในทิศตะวันออกมีผนังกั้นเป็น Stillness Area หรือพื้นที่รองรับความนิ่งสงบ เช่น ห้องนอนและห้องทำงาน วิธีนี้จะช่วยป้องกันความร้อน จากแสงอาทิตย์ที่สาดส่องโดยตรงในห้องนอน ทำให้โซนพักผ่อนส่วนตัวเย็นสบาย
เชื่อมปฏิสัมพันธ์ของสมาชิก ต่างวัยด้วยสเปซ ทีมงานเชื่อว่า “สัมพันธภาพที่ดีของสมาชิกในบ้าน เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสถาบันครอบครัวที่มั่นคง” การออกแบบบ้านให้ครอบครัวที่มีผู้อยู่อาศัยหลาย ๆ คน ซึ่งมีความชอบความต้องการไม่เหมือนกัน และยังมีความต่างของช่วงวัยแต่สามารถใช้งานร่วมกันได้ดีจึงเป็นโจทย์ที่ท้าทาย
จัดฟังก์ชันให้มีความยืดหยุ่นและลื่นไหลเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย ด้วยการเพิ่มพื้นที่ทางสังคม มุมนั่งเล่น ครัว ห้องรับประทานอาหารให้กว้างขวาง และต่อเนื่องกันแบบ open space บริเวณชั้นล่าง ช่วยดึงให้ทุกคนออกมาจากห้องส่วนตัว เพื่อใช้ทั้งพื้นที่ และเวลาร่วมกันมากขึ้น ส่วนห้องนอนผู้สูงวัยอยู่บริเวณชั้นนี้ จึงสะดวกและปลอดภัยไม่ต้องเดินขึ้น-ลง สำหรับโซนใช้ชีวิตของวัยหนุ่มสาวจะอยู่ชั้นบน แต่มีชั้นลอยที่ยังมองเห็น ระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างได้
ต้อนรับลมผ่านประตู อิฐช่องลม และหลังคา ในบ้านที่อยู่เขตร้อน สิ่งที่บ้านต้องการคือกระแสลมที่จะช่วยให้บ้านมีอากาศถ่ายเทไหลเวียน ในบ้านใส่ช่องเปิดขนาดใหญ่ และทำชายคายื่นยาวออกไป ทำให้มีพื้นที่ว่างระหว่างหลังคากับตัวอาคารรับลมเข้าสู่ใต้ผืนหลังคาได้มาก ประตูใช้บานชัตเตอร์กรอบเป็นเหล็กใส่ไม้ระแนง
![ประตู อิฐช่องลม และหลังคา ในบ้านที่อยู่เขตร้อน](https://landphuket.live/wp-content/uploads/2023/08/Courtesy_of_K59atelier_18-620x829-1.jpg)
ติดตั้งจุดหมุนไว้กลางบานจะตั้งค้าง 90° หรือมากกว่านั้นก็ได้ เมื่อเรียงต่อกันหลาย ๆ บานจะเหมือนเปิดผนังได้หมด ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของการระบายอากาศได้อย่างราบรื่นทั่วทั้งหลัง ในขณะที่ปิดประตูแสงก็ยังคงส่องลอดเข้ามาเติมความสว่างลดความชื้นในบ้านได้
รูปทรงของหลังคาก็มีส่วนช่วย เรื่องการไหลเวียนของลมอย่างมาก หลังคาที่มีความลาดชันสูงจะมีพื้นที่ใต้หลังคาให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นไป สู่จุดสูงสุดด้านบน และระบายออกไปจากอาคารได้ดี ความร้อนสะสมในบ้านจึงน้อย ภายในยังออกแบบช่องลมบริเวณใต้ฝ้าชายคา และตัวอาคาร ด้วยการก่อผนังจากวัสดุอิฐช่องลมที่ทำให้ลม flow เสมือนบ้านหายใจได้
ชายคาที่ยื่นออกมาจาก ตัวบ้านบริเวณระเบียง สร้างพื้นที่รับลมเข้าสู่ใต้ผืนหลังคา และยังช่วยสร้างร่มเงาไม่ให้แดดส่องเข้าสู่ตัวบ้านมากเกินต้องการ จากจุดนี้จะมองเห็นวิวชุมชน ต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงข้าม และสวนหน้าบ้านที่สอดแทรกใส่ความรื่นรมย์ของสีเขียวให้สบายตา ให้บ้านใกล้ชิดธรรมชาติเพิ่มขึ้น ด้วยการจัดสวนหลังบ้าน และวางสวนกระถางตามจุดต่าง ๆ แม้แต่ในห้องน้ำก็สร้างบรรยากาศ ให้สดชื่นได้ในทุกตารางเมตร
ทริคแต่งบ้านสไตล์ Tropical ให้สดชื่น เย็นสบาย
![สร้างบรรยากาศในห้องนั่งเล่นให้น่าใช้งาน](https://landphuket.live/wp-content/uploads/2023/08/02_7-tricks-for-tropical-style-decoration.jpg)
1.เปิดรับแสงและลมจากธรรมชาติให้รู้สึกสบาย
สร้างบรรยากาศในห้องนั่งเล่นให้น่าใช้งาน แบบฉบับบ้าน Tropical Style ด้วยการเปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาภายใน เพื่อปรับมู้ดในห้องให้รู้สึกสดชื่นไม่อุดอู้ แถมยังได้เปิดให้ลมพัดผ่านเข้ามา และยังสามารถใช้ม่านโปร่งแสงเพื่อกันแสง ในวันที่แดดแรงเกินไป ช่วยเติมความเย็นสบายแบบง่าย ๆ คลายความอบอ้าวในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี
นอกจากเปิดรับแสงและลมจากธรรมชาติ การเลือกโซฟานุ่ม ๆ สักตัวก็ช่วยสร้างความสบายให้พักผ่อนแบบฟิน ๆ ได้เช่นกัน ยิ่งเป็นโซฟาโครงไม้ที่ให้ความแข็งแรง และเติมความเป็นธรรมชาติให้ห้องดูอบอุ่น ใช้เบาะสุดนุ่มหุ้มด้วยผ้าลูกฟูกสีเขียว ให้สัมผัสสบายเอนกายนอนได้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
2.ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้และหวาย
เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็น แบบบ้าน Tropical Style ด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดเก๋ อย่างเก้าอี้โครงไม้ไผ่ดีไซน์เรียบง่าย พร้อมแต่งหวายสานตรงที่นั่งและพนักพิง เติมความเป็นธรรมชาติให้เข้ากับต้นไม้นานาพรรณ ที่เสริมให้บ้านสดชื่นและมีชีวิตชีวามากกว่าเคย
ไม้สักสีสวยลวดลายธรรมชาติ เป็นอีกวัสดุที่ช่วยสร้างบรรยากาศสุดอบอุ่น แต่งบ้าน Tropical Style ให้โดดเด่น พร้อมกับใช้หวายถักแบบงานแฮนด์เมด แต่งตรงพนักพิงหลัง เติมดีเทลสุดเก๋ให้เก้าอี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
3.เพิ่มบรรยากาศสุดร่มรื่นด้วยต้นไม้สไตล์ Tropical
ดับความอบอ้าวในหน้าร้อน ด้วยการเติมพื้นที่สีเขียวในบ้านด้วยต้นไม้ นับเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของบ้านสไตล์ Tropical ที่ใช้ความเป็นธรรมชาติเข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตกแต่ง และการเลือกเป็นต้นไม้ในเขตร้อน อย่าง ต้นกล้วย ต้นปาล์ม มอนสเตอร่า เฟิร์น หรือต้นจั๋ง จะช่วยให้ได้บรรยากาศบ้าน Tropical Style มากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่อาจจะไม่มีเวลาดูแล และกลัวว่าน้อง ๆ ต้นไม้จะแห้งเหี่ยวอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ก็ยังอยากได้ความสดชื่นอยู่ สามารถเลือกใช้เป็นต้นไม้ปลอม ที่ใช้วัสดุคุณภาพดี พร้อมแต่งสีเข้มสลับอ่อนเลียนแบบต้นไม้จริง สร้างบรรยากาศให้มีความเป็นธรรมชาติ เสริมให้บ้านมีชีวิตชีวาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการรดน้ำใส่ปุ๋ยเลย
4.ติดผ้านม่านโทนสีเขียวแต่งให้บ้านสวยสดชื่น
นอกจากแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์หวายและต้นไม้แล้ว การเปลี่ยนมาใช้ผ้าม่านโทนสีเขียวธรรมชาติ ก็จะยิ่งเติมความสดชื่นให้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะติดในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศสุดแสนผ่อนคลาย พร้อมเตรียมต้อนรับหน้าร้อนให้ได้ บ้าน Tropical Style สุดสดชื่น
สำหรับบ้านที่ไม่มีที่ปลูกต้นไม้ ก็สามารถเติมสีเขียวเข้าไปได้ง่าย ๆ เพียงแต่งด้วยผ้าม่านสีเขียวผืนยาว พร้อมพิมพ์ลายริ้วบาง ๆ สร้างดีเทลให้ห้องสีขาวไม่ดูเรียบและจืดชืดเกินไป อาจเสริมด้วยดอกไม้แห้งเล็ก ๆ ในแจกันดีไซน์เก๋ไก๋ แต่งให้บ้านดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
5.เปลี่ยนปลอกหมอนอิงให้เข้ากับการตกแต่ง
แต่งบ้านให้ดูน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยหมอนอิงสีขาวพิมพ์ลายใบไม้ เสริมให้โซฟาสีขาวในห้องนั่งเล่นเรียบ ๆ ดูสดใสยิ่งขึ้น พร้อมใช้กรอบรูปลายใบไม้แบบเดียวกัน สร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นอย่างกลมกลืน เติมความสดชื่นให้รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
บรรเทาความรู้สึกอันร้อนรุ่มช่วงหน้าร้อน ด้วยการจัดวางหมอนอิงดีไซน์เก๋ ยิ่งเลือกเป็นหมอนอิงรูปทรงใบไม้ หุ้มผ้ากำมะหยี่สัมผัสนุ่มพิเศษ และยัดนุ่นใยสังเคราะห์ให้เนื้อแน่น นุ่มฟู สามารถหนุนนอนได้อย่างผ่อนคลาย แถมยังช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้บ้านดูน่ารักไม่เหมือนใคร
![แต่งบ้านให้ดูน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ](https://landphuket.live/wp-content/uploads/2023/08/10_7-tricks-for-tropical-style-decoration.jpg)
6.เติมของตกแต่งสีเอิร์ธโทนสร้างความอบอุ่นเป็นธรรมชาติ
ผสมผสานความเป็นธรรมชาติให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อแต่งบ้านสไตล์ Tropical ให้น่าอยู่ โดยการเลือกใช้สีเอิร์ธโทน เพื่อปรับมู้ดให้ได้บรรยากาศสุดอบอุ่นเป็นกันเอง เลือกของแต่งห้องดีไซน์เรียบง่าย โทนสีน้ำตาล สีครีม หรือสีเขียวอ่อน และเอามาตกแต่งจัดวางอย่างมีสไตล์ เพียงเท่านี้ก็จะได้ห้องน่ารัก ๆ ในสไตล์ Tropical แล้ว
ปรับบรรยากาศในห้องนั่งเล่น ให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ด้วยกระเบื้องยางสีน้ำตาลอ่อนสไตล์เอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าอยู่ พร้อมปูเป็นลายก้างปลา ปรับมู้ดบ้านให้มีความโมเดิร์น แต่งบ้านรับหน้าร้อนได้อย่างทันสมัยไม่มีตกเทรนด์
7.ประดับดอกไม้ให้บ้านสดใสมีชีวิตชีวา
เติมชีวิตชีวาในห้องนั่งเล่นให้สดใสยิ่งขึ้น โดยทาผนังโทนสีฟ้า ตัดกับโซฟาสีเหลืองสดใส และอาร์มแชร์สีเขียวธรรมชาติ เสริมด้วยการประดับดอกไม้ในแจกันเก๋ ๆ เปลี่ยนบ้านอันอบอ้าวในหน้าร้อน ให้มีความรู้สึกสบายขึ้นกว่าเดิม
ดอกไม้สีหวาน ๆ ในแจกันสีขาวดีไซน์มินิมอล แต่งเติมมุมต่าง ๆ ในบ้านให้มีความสดใสยิ่งขึ้น ช่วยเปลี่ยนห้องนั่งเล่นอันแสนเรียบง่าย ให้มีทั้งความสวย และรู้สึกสบาย พร้อมได้ความเป็นกันเอง แถมดอกไม้ยังช่วยสร้างสีสัน ให้บ้านสไตล์ Tropical มีความน่ารักที่ไม่เหมือนใครด้วย